10.21.2009

มองหาตัวเองที่หายไปนาน

เมื่อทุกอย่างยังเหมือนอยู่ไปวันๆ

มองหาตัวเองที่หาไม่เจอ

ได้แต่เจอะแต่ความเงียบงัน

แล้วเมื่อไหร่จะยิ้มอย่างเดิม

ให้ได้เจอะตัวเองอีกครั้ง

หัวใจที่เคยอ่อนแอ

แท้จริงมันเคยแกร่ง เคยแข็งแรง

สักวันคงมีเรี่ยวแรงเป็นอย่างคนเดิม















ความเป็นฉันต้องกลับมา

เวลาคงช่วยรักษาให้ดีกว่านี้





แล้วเมื่อไหร่จะยิ้มอย่างเดิม...?

6.20.2009

ไม่มีชื่อ

เปิดเทอมแล้วแหละ
เปิดมาอาทิตย์แรกก็ได้เรื่องเลยค่ะ ผีเข้าหรืออะไรไม่ทราบ
อยู่ๆก็ไม่อยากเรียนขึ้นมาซะงั้น เล่นเอาคนรอบข้างรวนไปหมด
มันไม่ใช่บ้างล่ะ ยังไม่แน่ใจบ้างล่ะ ไม่ชอบบ้างล่ะ
ถึงขนาดเขียนใบลาออกแล้วด้วย กรี๊ดกร๊าด ลาออกจากจุฬาฯ อีบ้าาา
เพื่อนๆ พี่ๆ พ่อ ก็ดูจะเข้าใจเราดีนะ แต่พอบอกแม่ ทีแรกชีก็เหมือนจะไม่ว่าอะไร
แต่เอาเข้าจริงๆ ชีก็น้ำตาตก ดิชั้นหนีไปบ้านเพื่อน ไปนอนคิด
เอาวะ เรียนก็เรียน สู้เพื่อแม่
ก็เลยตัดสินใจเรียนด้วยประการฉะนี้แล
มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก
ใจจริงคิดว่า ที่ตอนนั้นเกิดเหวี่ยงไม่อยากเรียนขึ้นมาเนี่ย
คงเป็นจิตใต้สำนึกออกโรง เรียนโทห่านไรทำไมแพงหยั่งงี้วะแสรดดด
อุ๊บส์ หยาบคายนิดหน่อย หุหุ
เรียนแปลแค่ประมาณสามหมื่นกว่าๆเองง่ะ นี่ล่อเป็นแสน จิตตกค่ะ
ถ้าเรียนจบแล้วไม่ได้กำไร ดิชั้นจะ....จะไรดีนึกไม่ออก ช่างเหอะ

ช่วงนี้รู้สึกว่ารอบตัวมีแต่คนมีความรัก เห็นแล้วหมั่นไส้
ไม่ใช่อะไร อยากมีบ้าง หลังจากเลิกรากับคุณแฟนเก่าไป
ดูเหมือนจะอาภัพด้านความรักมาตลอด สงสัยฟ้าลงโทษ
ลงโทษนานพอยังวะเนี่ย แต่ก็นะ ถ้าคราวนี้จะมีแฟน
ก็ขอให้เป็นคนที่จะพาเราลงจากคานเลยละกัน ใกล้สามสิบเข้าไปทุกที
ไม่มีเวลามารักๆเลิกๆแบบเด็กๆแล้ว (กลัวขึ้นคานสุดๆ ไม่รู้เ็ป็นอะไรนัก)
เป้าหมายก็ยังไม่มี ตอนนี้คงเลือกมากไม่ได้แล้วสินะ 555
(เคยเลือกได้ด้วยเหรอหล่อนน)

หมดเรื่องพล่ามแล้ว ขอตัวไปกลิ้งกลุกๆดีกว่า

5.19.2009

ภาวะเบื่อโลกหลังเรียนจบ

หายไปซะนานเลย (อีกแล้ว)
เริ่มต้นด้วยประโยคเดิมๆ
มาคราวนี้แรงผลักดันในการอัพบล็อกคือความเบื่อ
เรียนจบปีนี้นี่มันช่างซวยบรมเหลือเกิน
เศรษฐกิจแย่ หลายคนยังหางานไม่ได้ ก็ต้องนั่งเซ็ง
กับความรู้สึกที่ว่าเกาะพ่อแม่กิน (ดิชั้นก็รู้สึกแบบนี้)
เราเองยิ่งรู้สึกผิดต่อพ่อแม่เข้าไปใหญ่ เพราะปีนี้
เป็นปีที่ใช้เงินเยอะมากกกก
เรียนจบก็บินไปเดนมาร์ก ค่าเดินทางก็หลายหมื่นแล้ว
พ็อคเก็ตมันนี่ที่เก็บสะสมมาก็ใช้ไม่พอ ต้องเจียดเงินพ่อแม่อีก
กลับจากเดนมาร์กแล้วต้องทำไร ต้องซื้อโน้ตบุ๊คไว้เรียนป.โท
เสียอีก ยังไม่พอ เดี๋ยวต้องจ่ายค่าเทอมอีกหลักแสน ป้าดดด
ลูกจะตั้งใจเรียนให้คุ้มค่าเทอมเน้ออ
เรียนเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาว่าง สำเหนียกได้ว่าไม่ควรอยู่เฉยๆ
อยากหาอะไรทำที่มันได้เงิน รับจ๊อบแปลหรืออะไรทำนองนี้
ก็โฆษณาไว้ตรงนี้เลยละกัน จะให้แปล แก้แกรมม่า ล้างจาน ขัดส้วม
อะไรก็ได้ ทำหมด คิดตังนะ ไม่ทำให้ฟรีๆแล้ว 555

เอาล่ะ ระหว่างนี้ชีวิตล่องลอยมาก ว่างเหียกๆเหือกๆ นั่งเงือกไปวันๆเลย
รอเรียนป.โท ในอีกประมาณสองอาทิตย์ ว่างอย่างหาที่สุดมิได้
ว่างแล้วก็เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไร วันๆก็อยู่แต่หน้าคอม ไม่ก็อยู่กับโทชิ (โน้ตบุ๊ค)
(บ้าไหมเนี่ยตั้งชื่อให้โน้ตบุ๊ค ว่างจริงๆด้วยเห็นไหมล่ะ)

คิดไปคิดมา จะว่าว่างนักก็ไม่ถูก กึ่งๆนัดเพื่อนไว้หลายคน
กลับกรุงเทพไปก็คงไม่ว่างเท่าไหร่ อยู่บ้านไม่มีรถให้ใช้
ถึงมีก็ใช้ไม่เป็น เดินทางไม่สะดวกเหมือนอยู่กรุงเทพ
ไปไหนเองไม่ได้ก็เลยเบื่ออออ แบบนี้นี่เองงงง
ติดอยู่แต่กับบ้าน ได้แต่นั่งๆนอนๆ ของกินพร้อมสรรพตลอดเวลา
ก็เลยยิ่งอ้วนขึ้นน่ะสิ อ้วนขึ้นแล้วก็เซ็งอีก เบื่ออีก
โวะ!

แต่ไม่ใช่ว่าอยู่บ้านแล้วไม่ดีนะ
ได้อยู่กะพ่อแม่ใครจะไม่ชอบเล่าาา

พล่ามมากพอแล้ว ไปดีกว่า

อย่าลืมนะ
ตอนนี้ตองว่าง รับจ้างแปล และอื่นๆ

อย่าลืมนะ!!!

3.18.2009

shopping @ ตลาดโรงเกลือ

ของที่ช้อปมาจากโรงเกลือกับท่านแม่

อันนี้กระเป๋าจากญี่ปุ่น หุหุ สวยดีเนอะ เป็นหนัง

อีกใบนึง เหมือนเลียนแบบกระเป๋าแบรนด์เนมแบรนด์หนึ่ง แต่นึกไม่ออกว่าแบรนด์ไหน
สวยดี สภาพดีมาก ใช้กับแม่

กระเป๋า Kipling ใบยักษ์ แม่เชียร์มากๆ เลยเอามา ใบใหญ่ดี เหมาะกับอีบ้าหอบฟางอย่างดิชั้น


นางเอกของงาน น้องนางกุ๊ดจี่ 555+ แท้ไม่แท้ไม่รู้
รู้แต่สวย ใบใหญ่ ใส่จุ 400 เท่านั้นค่าาา (คงไม่แท้ละมั้ง)

กระเป๋าดำใบนี้ถอดสายเหล็กออกได้ ยังใหม่ๆอยู่เลยอะ เอาไว้ไปงานก็ได้ แปดสิบมั้งใบนี้


มาดูรองเท้าบู๊ตกันบ้างเค่อะ ซื้อไปใส่ที่เดนมาร์ก



คู่ดำนี่ดูแมนๆเนอะ ข้างในนิ่มๆฟูฟ่อง ดูเผินๆเหมือนรองเท้าคอสเพลย์เลยอะ



น้องน้ำตาล แอร๊ยยังมีเชือกผูกอยู่เลย
ใส่สบายดี

รองเท้าบู๊ตคู่ละ 40 บาทเท่าน้านนนน แอร๊ยยยย
เอาคู่ไหนไปดีอะ ไม่อยากแบกไปเยอะ
กระเป๋าที่ไม่บอกราคา เพราะจำไม่ได้ - -
รู้แต่ว่าหม่อมแม่ต่อราคาซะจนคนขายหน้าเสีย 555+

จบแล้วค่าา

2.20.2009

ไหลไปเรื่อย

เที่ยงคืนกว่าแล้ว ง่วง เหนื่อย แต่ยังไม่อยากไปนอน
วันทั้งวันยังไม่แตะหนังสือ รู้สึกผิดมั้ย ไม่ 555+

หลังจากอัพเดทครั้งล่าสุด ผ่านไปสองเดือนเห็นจะได้
ผ่านอะไรมาหลายๆอย่างที่น่าจดจำ
แต่ดันขี้เกียจเกินไปที่จะบันทึกเอาไว้
ทั้งในบล็อก และในไดอารี่ที่เขียนอยู่

รู้สึกผิดมั้ย

รู้สึก

ตอนปีหนึ่งล่ะอัพได้อัพดี แต่พอนั่งย้อนอ่านๆดู
มีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ตามประสาเด็ก
ให้ความสำคัญกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
จริงๆตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่น้อยลงแล้ว

สอบมิดเทอมไปแล้ว
ผ่านปีใหม่ งานบายเนียร์ทั้งของคณะและของภาค
วาเลนไทน์ที่นั่งปั่นงานหัวฟูอยู่คอนโด

แป๊บเดียว ก็ต้องสอบไฟนอลครั้งสุดท้ายในชีวิตปริญญาตรีแล้ว
เมื่อวาน เพื่อนบอกว่า
วันนี้จะได้เรียนด้วยกันเป็นคาบสุดท้ายแล้วนะ

ห่านเอ๊ย พูดทำไม

เกลียดจัง คำว่า "สุดท้าย" เนี่ย
แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้สินะ
เปลี่ยนเรื่องดีกว่า นั่งซึ้งคนเดียวไม่หนุก

-----------------------------------------------------------
วีซ่าไปเดนมาร์กผ่านแล้ว หลังจากนั่งลุ้นอยู่หลายวัน
จริงๆจะลุ้นทำไมไม่รู้
เพราะตั้งแต่วันที่ไปขอ จนท.เค้าก็บอกแล้วว่า
พี่จะผ่านวีซ่าให้นะคะ
แต่เหมือนเป็นโรคจิต ชอบความแน่นอน ต้องโดนย้ำอีกที
ตื่นเต้นอ่ะ รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับตัวเอง
จะเดินทางไปตปท. คนเดียวเป็นครั้งแรก
ไปหาคนที่รัก (พูดเหมือนมีแฟนอยู่เมืองนอกเลยนะ)
กลับไปหาบรรยากาศเก่าๆที่คิดถึง
5 ปีแล้ว จะเปลี่ยนไปขนาดไหนนะ

ง่วง จบดื้อๆ

ป.ล.อยากมีรูปเยอะๆ เหมือนบล็อกแนนอ่ะ แต่ขี้เกียจ