4.15.2008

สงกรานต์ในมุมมองของปณิธาน

ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ
ปีนี้ตัดสินใจเล่นสงกรานต์ หลังจากเก็บตัวไปหลายปี
และสังเกตอะไรบางอย่างได้ เลยมาเขียนเก็บไว้

1.ทำไมต้องสาดน้ำใส่รถ
จุดประสงค์ของการเล่นน้ำสงกรานต์ คือการสาดน้ำใส่สิ่งมีชีวิตไม่ใช่เหรอ
ประเด็นคือสาดแล้วมันต้องเปียก ต้องมีการโต้กลับ มี reaction
แต่ว่าก็ยังมีผู้เล่นสงกรานต์หลายคนที่สาดน้ำใส่สิ่งที่ไม่มีชีวิต
เ่ช่น รถยนต์ ฟอร์เอ็กแซมเปิ้ล ก็ไม่รู้นะว่าสาดทำไม
รถมันไม่รู้สึกอะไรหรอก คนในรถก็ไม่ได้เปียกด้วย
หรือเขาแอบหวังว่าน้ำจะซึมผ่านกระจกรถมาได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
คือเราเห็นว่ามันเปลืองน้ำโดยใช่เหตุน่ะ
ถ้าจะสาดน้ำใส่รถ ก็มาล้างรถให้ซะเลยดีกว่า

2.ดินสอพองมาสค์หน้า
เล่นสงกรานต์ก็ต้องมีประแป้ง แป้งที่นิยมใช้กันก็ทำมาจากดินสอพอง
หลายคนสนุกสนานกับการเล่นน้ำ แต่กลับบ้านมาพบว่าสิวขึ้น หน้าแหก
ถ้าอยากเล่นสงกรานต์แบบใส่ใจสุขภาพผิว (ทั้งของตัวเองและคนอื่น)
ก็เอาน้ำมะนาว น้ำสะอาด และก็ดินสอพอง มาผสมกันก่อน
แล้วค่อยไปประแป้งคนอื่น จะเป็นการมาสค์หน้าไปในตัว
ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีล้างออก (โดนคนอื่นสาดนั่นแหละ)
มาสค์หน้า on the move ของจริง
ป.ล.สูตรดินสอพองผสมน้ำมะนาวเหมาะกับคนหน้ามันนะจ๊ะ

3.ควรสาดให้แม่นยำและมีเป้าหมายแน่นอน
เห็นหลายคนเลยอ่ะ (ตัวเราเองด้วย) เล็งไว้แล้วว่าจะสาดใคร
แต่สาดไปแล้วมันไม่โดน สาดใส่อากาศซะงั้น แห้วมากๆ
หรืออีกกรณีหนึ่ง เห็นคนอื่นเค้าสาดกันประหนึ่งว่าน้ำเป็นของฟรี
ก็สาดมั่ง แต่สาดไปงั้นแหละ ไม่มีเป้าหมาย ไม่ได้เล็งไว้
และการทำแบบนี้มันก็มักจะไม่มีการสาดตอบรับหรอก
มันเปลืองน้ำว่ะค่ะ

4.การเลือกที่เล่นสงกรานต์
ระหว่างนั่งรถเข้ากรุง เห็นคนหลายกลุ่ม ตั้งฐานสาดน้ำอยู่ริมถนน
ถนนที่ว่าคือทางหลวง ที่มีรถเล่นสงกรานต์น้อยมากๆ
เห็นแล้วสงสารอ่ะ คือจะสนุกไหมเนี่ย
ต้องรอจนตัวแห้งเลยมั้ง กว่าจะได้สาดน้ำำกะเค้ามั่ง

คิดๆดูแล้ววันสงกรานต์นี่ก็แปลกดีนะ
เป็นวันที่สาดน้ำใส่คนไม่รู้จักได้เต็มที่
โดยไม่โดนด่าเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ

4.06.2008

summer'08

หายไปนานร่วมเดือน ในที่สุดก็เลิกขี้เกียจ และได้ฤกษ์อัพบล็อกอีกครั้ง
อัพครั้งล่าสุดก่อนจะหนีหายไปฟิตสอบไฟนอล (ก็ยังออนเอ็มอยู่ดี)
วันนี้ดิชั้นกลับมาแล้ว ทั้งที่ไม่มีใครเรียกร้องให้อัพ

ปิดเทอมนี้ดิชั้นไม่ได้กลิ้งเกลือกอยู่บ้านตามปกติ
ดิชั้น
....
...............
ดิชั้นฝึกงานค่ะคุณ
ที่คณะบังคับฝึกเหรอ....ก็ไม่
อยากได้ประสบการณ์ใช่มั้ย....เปล่าอ่ะ
แล้วฝึกไปทำแมวอะไร ทำไมไม่นอนอ้วนอยู่บ้านซะ
คำตอบจากใจจริง คือ จะเอาเงิน เอาไปเ็ป็นกองทุน
กองทุนเที่ยวเที่ยวเที่ยวหลังเรียนจบปริญญาตรีอักษรศาสตรบัณฑิต
หมายใจไว้ว่าสอบไฟนอลเสร็จ ก็จะออกนอกประเทศไปสักสองเดือน
แล้วก็กลับมาเรียนต่อโท และรับปริญญา
เนี่ยแหละการวางแผนชีวิตของดิชั้น ฟังดูดีมั้ยเนี่ย 555+

ดิชั้นฝึกงานที่บริษัทที่ผลิตซันซิล ไอติมวอลล์ ซันไลต์ ฯลฯ
อยู่แผนกสื่อสารภายใน หน้าที่ประจำคือแปล หา+เขียนบทความ
ทำโปสเตอร์ ทำป้ายในphotoshop และงานเล็กๆน้อยๆตามแต่จะสั่ง
ฝึกมา 3 สัปดาห์ ก็เริ่มคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
แต่ยังไม่ชัดมากพอที่จะเอามาเขียนได้

ปิดเทอมนี้ดิชั้นยังไปทำอะไรบางอย่างมาด้วย
บางอย่างที่ไม่เคยคิดว่าีผู้หญิงอย่างดิชั้นจะสนใจทำในชีวิตนี้
นั่นคือประกวดเขียนแผนธุรกิจกับธนาคารHSBC
ที่เรียกกันว่า HSBC Young Entrepreneur Awards
ทำร่วมกับอรุชและโฮม (ที่ยิ้มตลอดเวลา)
ไม่ได้ช่วยคิดธุรกิจอะไรกะเค้าหรอกนะ แต่เป็นคนแปลให้
เพราะต้องส่งเอกสารเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ
และแผนธุรกิจของทีมเราก็ได้ผ่านเข้ารอบ 2 และได้ไปpresent
ต่อหน้ากรรมการทั้งหลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง
เราเป็นทีมสุดท้าย การpresentผ่านไปอย่างติดๆขัดๆเล็กน้อย
ผลปรากฏว่า ทีมเราตกรอบ
ไม่เสียใจ กลับกัน เราออกจะภูมิใจด้วยซ้ำที่มาถึงจุดนี้ได้
จากร้อยกว่าทีม จนได้เป็น 1 ใน 12 ทีมที่เข้ารอบ
ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีความรู้เรื่องธุรกิจอยู่ในหัวเลย
เราได้เห็นว่า ถ้าจะทำ ก็ทำได้ แต่ต้องจริงจังมากกว่านี้ ทุ่มเทมากกว่านี้
ขอบคุณอรุชและโฮมด้วย ที่ชวนร่วมทีม
อย่างน้อยก็ได้ลองดูสักตั้งล่ะเนอะ

ฤดูร้อนปีนี้คงจะหมดไปกับการฝึกงาน
ฤดูร้อนปีหน้า จะต้องหมดไปกับการเที่ยว

สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้าหลายๆวันค่ะทุกคน